นาบิล-ยูนิส-ปตท. แก๊งนักสู้พัทยาพร้อมลุย! เปิดฟิตซ้อมก่อนศึก ONE ลุมพินี 126
“นาบิล-ยูนิส-ปตท.” แก๊งนักสู้พัทยาพร้อมลุย! เปิดฟิตซ้อมก่อนศึก ONE ลุมพินี 126
สนามลุมพินีเตรียมระอุ เมื่อสามนักสู้ตัวแทนค่ายดังเมืองพัทยา ได้แก่ “นาบิล อานาน” เจ้าของเข็มขัด ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต, น้องชายแท้ “ยูนิส อานาน” และพี่ชายร่วมค่ายคนสนิท “ปตท. อภิชาติฟาร์ม” พร้อมใจกันโชว์ความฟิตผ่านกิจกรรม Open Workout ต่อหน้าสื่อมวลชน ก่อนถึงวันจริงในศึก ONE ลุมพินี 126 วันศุกร์ที่ 26 กันยายนนี้ ถ่ายทอดสดไปทั่วโลกกว่า 195 ประเทศ
ศึก ONE ลุมพินี 126 จึงไม่ใช่เพียงการต่อสู้เพื่อชัยชนะเท่านั้น แต่ยังเป็นการพิสูจน์ศักดิ์ศรีของ “แก๊งพัทยา” ที่พร้อมปล่อยของเต็มพิกัด เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ค่ายและประเทศบนเวทีระดับโลก
แม้ว่า “นาบิล” จะลงแข่งขันในกติกาคิกบ็อกซิ่งของ ONE เป็นครั้งแรก แต่เส้นทางนักสู้ของเขาไม่ได้เริ่มจากศูนย์ เพราะก่อนหน้านี้เขาคืออดีตแชมป์โลก WKN คิกบ็อกซิ่ง ที่ผ่านการดวลมาแล้วบนเวทีระดับนานาชาติ จึงมั่นใจว่าตัวเองสามารถปรับตัวเข้าสู่เกมการต่อสู้ครั้งนี้ได้โดยไม่สะดุด แม้ต้องเผชิญหน้ากับ “อิเลียส” คู่แข่งที่ยังไม่เคยแพ้ใครใน 5 ไฟต์ที่ผ่านมา
นาบิลเผยว่า เขาใช้เวลาหลังไฟต์ล่าสุดพักฟื้นร่างกาย ก่อนจะกลับมาเตรียมตัวอย่างจริงจังกับไฟต์นี้ โดยมีเวลาเกือบสามเดือนเต็มในการวางแผนการฝึกซ้อม “สำหรับผม การฝึกคิกบ็อกซิ่งไม่ได้ต่างจากมวยไทยมากนัก แต่ทุกครั้งที่ขึ้นชก ผมจะปรับวิธีซ้อมใหม่เสมอ รอบนี้ผมเน้นเรื่องความเร็วและการเคลื่อนไหวเท้าให้คล่องตัวในสไตล์นักสู้รุ่นเล็ก ซึ่งช่วยให้ผมทำสิ่งที่คู่แข่งตัวสูงมักทำได้ยาก”
เมื่อถูกถามถึงจุดแข็งของอิเลียส เขายอมรับว่า คู่ต่อสู้รายนี้มีฟุตเวิร์กที่รวดเร็วและการเข้าทำที่ว่องไว แต่เจ้าตัวไม่ได้รู้สึกหวั่นใจ “นักสู้ทุกคนย่อมมีอาวุธประจำตัว สิ่งสำคัญคือการดึงจุดเด่นของเราออกมาใช้ให้ได้มากที่สุด และบังคับให้คู่แข่งต้องเล่นตามเกมของเรา”
สำหรับกลยุทธ์ในไฟต์นี้ นาบิลบอกว่ายังไม่ตัดสินใจแบบตายตัว เพราะเขาเชื่อว่าการต่อสู้จริงบนเวทีอาจไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ทั้งหมด “ผมต้องเตรียมพร้อมทั้งแผนรุกและแผนรับ และที่สำคัญคือการปรับตัวให้ทันกับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า”
ยูนิส พร้อมพิสูจน์ฝีมือบนสังเวียน มุ่งสู่เส้นทางนักสู้ระดับโลก
หลังจากสร้างชื่อด้วยชัยชนะครั้งแรกในศึก ONE ลุมพินี 114 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยการเอาชนะ “หลิว จุนเชา” นักสู้จากจีนไปอย่างสมศักดิ์ศรี “ยูนิส” ดาวรุ่งผู้มีความฝันตามรอยพี่ชาย “นาบิล” กำลังกลับมาอีกครั้ง พร้อมความมุ่งมั่นที่มากกว่าเดิม
เจ้าตัวเผยว่า การเตรียมความพร้อมในไฟต์นี้เหนือกว่าครั้งก่อนหลายเท่า เพราะได้เรียนรู้ประสบการณ์จริงจากการชกนวมเล็ก ซึ่งแตกต่างจากนวมใหญ่ทั้งความแรงและผลกระทบต่อร่างกาย แต่ครั้งนี้เขารู้แล้วว่าจะต้องรับมืออย่างไร และมั่นใจว่าจะทำผลงานได้ดีกว่าเดิม
คู่ต่อสู้ครั้งนี้คือ “ฮุน ฮวาง ฟี” นักสู้ผู้มีสัญญากับ ONE โดยตรง จุดเด่นของเขาคือการใช้หมัดผสมกับการเตะ แต่จุดอ่อนคือการเคลื่อนไหวที่ไม่รวดเร็วและรูปร่างเล็กกว่า ยูนิสจึงมั่นใจว่าสามารถหาจังหวะเอาชนะได้
“ฮุน ฮวาง ฟี เป็นนักสู้ที่ใช้หมัดกับการเตะได้ดี แต่ผมเห็นว่าเขาเคลื่อนไหวช้า และรูปร่างเล็กกว่าผมมาก สไตล์คล้ายคู่ชกคนแรกของผม แต่ดูจะช้ากว่า ซึ่งผมมั่นใจว่าตัวเองสามารถรับมือได้แน่นอน” ยูนิสกล่าว
ด้วยความทุ่มเทที่มากขึ้นในทุกการฝึกซ้อม และความเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง ยูนิสพร้อมเดินหน้าสู่เส้นทางที่ยิ่งใหญ่ และแสดงให้เห็นว่าเขามีศักยภาพก้าวขึ้นเป็นนักสู้ระดับโลกเช่นเดียวกับพี่ชายในอนาคต
ปตท. มุ่งพิสูจน์ฝีมืออีกครั้ง หวังล้างตาคู่ปรับเก่า
นักชกมากฝีมืออย่าง ปตท. เปิดใจถึงเป้าหมายในไฟต์ล่าสุด โดยเจ้าตัวยอมรับว่า ความพ่ายแพ้แบบไม่เป็นเอกฉันท์ต่อ “เอเลียส อับเดลาลี” จากฝรั่งเศส ในศึก ONE ลุมพินี 114 ยังคงเป็นสิ่งที่ค้างคาใจอยู่ไม่น้อย และครั้งนี้เขาตัดสินใจปรับกลยุทธ์ใหม่ทั้งหมด ด้วยการลดน้ำหนักลงมาสู้ในรุ่น 147 ปอนด์ เพื่อเรียกฟอร์มเก่งกลับคืน และหวังจะย้ำชัยเหนือคู่ต่อสู้อย่าง “อาเลสสิโอ” ให้ได้
ปตท. เผยถึงบทเรียนจากความผิดหวังที่ผ่านมาอย่างตรงไปตรงมา เขามองเห็นชัดว่าจุดอ่อนของตนเองคือการ “เปิดหน้า” โดยไม่ทันระวังการสวนกลับของคู่แข่ง หลังจากนั้นทีมงานจึงช่วยปรับระบบการป้องกันให้รัดกุมขึ้น พร้อมเพิ่มการซ้อมทั้งเชิงรุกและเชิงรับ รวมถึงการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวยิ่งกว่าเดิม
“ผมดีใจที่มีโอกาสได้ดวลกับอาเลสสิโออีกครั้ง เพราะไฟต์ก่อนหน้านั้นยังมีประเด็นดรามาเล็กน้อย ทำให้รู้สึกว่าผลการชกยังไม่ชัดเจน ครั้งนี้ผมอยากให้แฟน ๆ และทุกคนได้เห็นคำตอบที่แน่นอนว่าใครคือผู้ชนะที่แท้จริง” ปตท. กล่าวอย่างมั่นใจ
สำหรับการเตรียมตัวในครั้งนี้ ปตท. เชื่อว่าความแข็งแกร่งและสภาพร่างกายของเขาจะทำให้สามารถเดินหน้าออกอาวุธได้ดุดันกว่าเดิม เขายังมองว่าคู่ปรับรายนี้มีจังหวะแผ่วปลายในช่วงท้ายของการชก ซึ่งเป็นจุดที่เขามั่นใจว่าสามารถใช้ความได้เปรียบนี้ปิดเกมได้
“ผมพร้อมแล้วครับ ไฟต์นี้ผมเชื่อว่าผมจะทำได้ดีกว่าเดิม และมีโอกาสสูงที่จะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะอีกครั้ง” เขาทิ้งท้ายอย่างมุ่งมั่น
ศึก ONE ลุมพินี 126 จึงไม่ใช่เพียงการต่อสู้เพื่อชัยชนะเท่านั้น แต่ยังเป็นการพิสูจน์ศักดิ์ศรีของ “แก๊งพัทยา” ที่พร้อมปล่อยของเต็มพิกัด เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ค่ายและประเทศบนเวทีระดับโลก
หากคุณเป็นคอมวยที่ไม่อยากพลาดทุกประเด็นร้อนของศึก ONE ลุมพินี 126 รวมถึงข่าวสารความเคลื่อนไหวในวงการมวยไทยอย่างต่อเนื่อง
สามารถติดตามข้อมูลอัปเดตได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ มวยวันนี้ หรือจะสะดวกยิ่งขึ้น เพียงเพิ่มเพื่อนในไลน์ @MTD1 (อย่าลืมใส่ “@” นำหน้าด้วยนะครับ)