อาลีฟ ลั่นขอแข็งแกร่งให้มากกว่านี้! เตรียมฟิตร่างกายเต็มที่ หากได้สิทธิ์ท้าชิงแชมป์กับ “พระจันทร์ฉาย”
อาลีฟ ลั่นขอแข็งแกร่งให้มากกว่านี้! เตรียมฟิตร่างกายเต็มที่ หากได้สิทธิ์ท้าชิงแชมป์กับ “พระจันทร์ฉาย”
“อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” นักชกดาวรุ่งลูกครึ่งไทย-มาเลย์ ออกมาเผยถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่น หลังมีแนวโน้มว่าจะได้ขึ้นเวทีลุ้นแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ปอนด์) กับยอดมวยมากฝีมืออย่าง “พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม”
เจ้าตัวยอมรับแบบตรงไปตรงมาว่า หากต้องเผชิญหน้ากับนักชกระดับแชมป์โลกอย่างพระจันทร์ฉาย การฝึกซ้อมตามปกติอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นของการฝึกถึง 10 เท่า ทั้งเรื่องของร่างกาย เทคนิค และจิตใจ เพื่อยกระดับตัวเองให้พร้อมที่สุดในทุกด้าน
“ผมรู้ดีว่าถ้าอยากไปถึงจุดนั้นจริง ๆ ผมต้องซ้อมให้หนักกว่าที่เคยเป็นหลายเท่า พระจันทร์ฉายคือยอดนักชกที่ใครก็ประมาทไม่ได้ ผมต้องเตรียมตัวให้พร้อมในทุกมิติ” อาลีฟกล่าว
ด้วยรูปร่างที่ได้เปรียบและความกระหายที่จะพิสูจน์ตัวเอง อาลีฟถือเป็นหนึ่งในนักชกที่น่าจับตามองของรุ่นนี้ และถ้าได้รับโอกาสทองในการขึ้นชิงเข็มขัดแชมป์โลก เชื่อว่าเขาจะทุ่มเทเต็มร้อยเพื่อคว้าชัยและสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองและแฟนมวยทั้งสองเชื้อชาติ
“อาลีฟ” ฝ่ามรสุมก่อนชนะ 4 ไฟต์ติด – พร้อมท้าชน “พระจันทร์ฉาย” เพื่อชิงเข็มขัดแชมป์
ในค่ำคืนวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา บนเวทีศึก ONE Fight Night 32 แฟนหมัดมวยทั่วโลกต่างจับตาไปที่การดวลเดือดระหว่าง “อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” นักชกดาวรุ่งลูกครึ่งไทย-มาเลย์ กับ “เอลเมห์ดี เอล จามารี” กำปั้นจอมแกร่งจากโมร็อกโก ที่ก่อนหน้านี้เปิดตัวสุดร้อนแรงด้วยการน็อก “ทองพูน พีเค.แสนชัย” ตั้งแต่ยกแรก
แม้จะเจอกับคู่ชกระดับอันตราย แต่ “อาลีฟ” โชว์ให้เห็นถึงการวางแผนที่ชาญฉลาด ใช้จุดเด่นเรื่องช่วงชกที่ยาวกว่า คุมจังหวะเกมได้อย่างแม่นยำ ออกอาวุธเก็บแต้มอย่างต่อเนื่องจนคว้าชัยชนะด้วยคะแนนเอกฉันท์ พร้อมเดินหน้าสู่ชัยชนะไฟต์ที่ 4 ติดต่อกันอย่างสวยงาม
อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้กลับไม่ง่ายอย่างที่หลายคนคิด เพราะเพียงไม่กี่วันก่อนขึ้นเวที อาลีฟต้องเผชิญกับอาการป่วยกะทันหันจากผลข้างเคียงของการลดน้ำหนัก ทำให้นอนไม่เต็มอิ่มและมีอาการไอทั้งคืน ท่ามกลางความลังเลว่าจะถอนตัวหรือไม่ แต่สุดท้ายเจ้าตัวเลือกที่จะกัดฟันสู้ต่อ
“ผมโทรหาลูกพี่ (พ.ต.ท. สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์) บอกว่ารู้สึกไม่ค่อยดี ลูกพี่ถามว่าไหวไหม ผมตอบว่าไหว เพราะผมซ้อมมาหนักมาก ไม่อยากทิ้งโอกาสนี้ไป”
ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่เต็มร้อย เขาจึงเปลี่ยนแผนมาเน้นเล่นเกมระยะ ป้องกันไม่ให้ “เอลเมห์ดี” เข้าถึงตัวและบวกหมัดหนัก ๆ ได้มากนัก แม้ระหว่างเกมจะมีจังหวะพลาดโดนหมัดเต็ม ๆ จนรู้สึกมึนอยู่บ้าง แต่อาลีฟก็ยังประคองเกมไว้ได้จนครบยก
“ยกสุดท้ายหลายคนเห็นว่าผมถอยเยอะ เพราะระบบหายใจผมหายไปประมาณ 20% ถ้าร่างกายสมบูรณ์ ผมน่าจะทำได้ดีกว่านี้อีก แต่ผมก็พอใจที่ยังสามารถเอาตัวรอดและชนะมาได้ครับ”
เป้าหมายต่อไป: เข็มขัดแชมป์โลกจาก “พระจันทร์ฉาย”
หลังจบไฟต์ ทางรายการเซอร์ไพรส์แฟน ๆ ด้วยการเชิญ “พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต ขึ้นมาบนเวทีเพื่อประจันหน้ากับอาลีฟ ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าอาจมีศึกชิงแชมป์เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้
อาลีฟเปิดใจถึงความรู้สึกในโมเมนต์นั้นว่าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะเขาติดตามผลงานของพระจันทร์ฉายมาตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าวงการ และไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มายืนบนเวทีเดียวกันกับแชมป์ระดับตำนาน
“ผมบอกพี่เขาบนเวทีว่า ขอให้เข็มขัดเป็นของผมบ้างนะครับ พี่เขาหันมายิ้มแล้วตอบว่า ‘ยากหน่อย’ แต่ผมเชื่อว่าถ้าไม่ลองก็ไม่มีทางรู้ ผมจะกลับไปซ้อมหนักกว่าเดิมอีก 10 เท่า เพื่อให้พร้อมที่สุด”
แม้จะรู้ว่าเส้นทางสู่แชมป์ไม่ง่าย แต่อาลีฟก็แสดงให้เห็นถึงหัวใจของนักสู้ ที่ไม่ยอมถอยแม้ต้องเผชิญกับอุปสรรค และพร้อมจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยความพยายามล้วน ๆ
ใครที่อยากติดตามความเคลื่อนไหวในวงการมวยไทย ONE Fight Night 32 และข่าวสารอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด
สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ มวยวันนี้ หรือแอดไลน์ @MTD1 (อย่าลืมใส่ @ นำหน้าด้วยนะคะ)
