วรพล นักชกดาวรุ่งจากบุรีรัมย์ พร้อมท้าชน อิลยาส มวยหมัดแกร่งจากรัสเซีย ศึก ONE ลุมพินี 110

วรพล นักชกดาวรุ่งจากบุรีรัมย์ พร้อมท้าชน อิลยาส มวยหมัดแกร่งจากรัสเซีย ศึก ONE ลุมพินี 110

ศึก ONE ลุมพินี 110 คืนวันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคมนี้ เตรียมระเบิดความมันส์อีกครั้ง ณ เวทีลุมพินี (รามอินทรา) โดยคู่เอกของรายการเป็นการเผชิญหน้าระหว่าง “วรพล ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม” มวยซ้ายพลังม้า วัย 22 ปี จากบุรีรัมย์ ที่กำลังอยู่ในฟอร์มร้อนแรง กับ “อิลยาส มูซาเอฟ” ดาวรุ่งวัย 23 ปี จากรัสเซีย ในกติกามวยไทยพิกัด 142 ปอนด์ ถ่ายทอดสดพร้อมกันถึง 195 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป

วรพลถือเป็นนักมวยไทยที่แฟน ๆ จดจำได้จากสไตล์การชกดุดัน เดินหน้าใส่ไม่ยั้ง และไม่เคยทำให้ผู้ชมผิดหวัง โดยเฉพาะผลงานน่าจดจำจากเวที ONE ลุมพินี 30 เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ที่เขาโชว์ลูกเตะก้านคอสุดเฉียบ เอาชนะน็อก “สลาตัน จิตรเมืองนนท์” ในยกที่ 2 จน “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ประธาน ONE แจกโบนัสพิเศษ 700,000 บาทให้เป็นรางวัล

ล่าสุดในไฟต์ ONE ลุมพินี 99 เมื่อมีนาคมที่ผ่านมา วรพลกลับมาแก้แค้น “โซเนอร์ เซน” จากตุรกีได้อย่างสวยงาม โดยใช้เกมวงในกดดันตลอด 3 ยก คว้าชัยด้วยคะแนนเอกฉันท์ พร้อมเสียงชื่นชมจากแฟนมวยทั้งประเทศ

“ไฟต์นั้นผมรู้สึกกดดันมาก เพราะเคยแพ้เขามาก่อน ถ้าแพ้อีกก็จะเป็นไฟต์ที่ 4 ติดต่อกันที่พลาด แต่พอชนะได้ก็รู้สึกโล่งใจและภูมิใจมากครับ” วรพลเผยถึงความรู้สึกหลังไฟต์สำคัญ พร้อมเสริมว่า กระแสตอบรับดีเยี่ยมจากแฟนมวยเป็นแรงใจให้เขาเชื่อมั่นว่า นักมวยไทยยังสามารถรับมือพลังหมัดของต่างชาติได้หากใช้ศิลปะแม่ไม้มวยไทยอย่างเต็มที่

สำหรับคู่ต่อสู้ในไฟต์ต่อไป “อิลยาส มูซาเอฟ” จากแดนหมีขาว แม้จะเป็นมวยหมัดที่ขึ้นชื่อเรื่องสปีดหมัดและเท้าไว แถมยังเพิ่งล้ม “ซุปเปอร์บอล วันของโอม MBK” ด้วยหมัดน็อกต้นยกที่ 2 ใน ONE ลุมพินี 71 เมื่อกรกฎาคมปีที่แล้ว แต่ด้วยประสบการณ์ของวรพลที่เคยจัดการกับมวยหมัดมาแล้ว ทำให้เขามั่นใจว่าสามารถปิดเกมนี้ได้เช่นกัน

“สไตล์ของอิลยาสคล้ายกับโซเนอร์เลยครับ เป็นมวยหมัดที่มีความเร็ว แต่ยังไม่ถนัดเกมวงใน ผมเตรียมแผนบุกใส่ตั้งแต่ต้น โดยจะตัดระยะการออกอาวุธของเขา และเน้นใช้ศิลปะมวยไทยให้เต็มศักยภาพ” วรพลกล่าว

เจ้าตัวยังเผยว่าได้ฝึกซ้อมอย่างหนักตลอด 2 เดือนเต็ม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับไฟต์นี้โดยเฉพาะ โดยหวังจะเป็นนักชกคนแรกที่สามารถเอาชนะอิลยาสได้แบบไม่ครบยก และใช้ไฟต์นี้เป็นจุดเริ่มต้นในการก้าวขึ้นสู่เส้นทางใหม่ในเวทีระดับโลก

“ผมอยากให้แฟนมวยมั่นใจว่าจะได้เห็นสไตล์บู๊ดุดันตั้งแต่วินาทีแรกแน่นอน และครั้งนี้ผมมีอาวุธลับที่เตรียมไว้เพิ่มด้วย หวังว่าจะได้สร้างความประทับใจอีกครั้งครับ”

การดวลกันของสองนักชกหนุ่มต่างชาติพันธุ์ในไฟต์นี้ จึงไม่ใช่แค่การลุ้นชัยชนะ แต่ยังเป็นเวทีพิสูจน์ว่าศิลปะมวยไทยยังคงมีพลังและศักดิ์ศรีในเวทีระดับสากล

ใครที่อยากติดตามความเคลื่อนไหวในวงการมวยไทย ONE ลุมพินี 110 และข่าวสารอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด

สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ มวยวันนี้ หรือแอดไลน์ @MTD1 (อย่าลืมใส่ @ นำหน้าด้วยนะคะ)